เกี่ยวกับ Launcher

  • ชื่อโปรแกรม: KC Launcher V13
  • ภาษาที่ใช้เขียน: JavaScript, HTML and CSS
  • JavaScript Framework: Electron JS
  • CSS Framework: Bootstrap 5

ความต้องการของระบบ

  • Windows: รองรับ Windows 7 และใหม่กว่า ไม่รองรับระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า (และใช้งานไม่ได้)
  • CPU: โปรเซสเซอร์ Intel Pentium 4 หรือใหม่กว่าที่รองรับ SSE2
  • RAM: 512 MB
  • หน้าจอแสดงผล: 1280*720

ที่อยู่ไฟล์โปรเจค

ให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์และแตกไฟล์ "KC Launcher V13.zip" ด้วยโปรแกรม Winrar ไปที่ไดร์ C คุณควรจะได้ที่อยู่ของไฟล์แบบนี้ C:\KC_Launcher_V13

Note ก่อนทำการแตกไฟล์โปรดปิด Antivirus และหลังจากแตกไฟล์เสร็จโปรดทำการเพิ่มข้อยกเว้นสำหรับ Path C:\KC_Launcher_V13\ วิธีเพิ่มข้อยกเว้น
เพื่อไม่ให้ Antivirus ทำการลบไฟล์ที่จำเป็นสำหรับ Launcher ทิ้งอัตโนมัติ หลังจากเพิ่มข้อยกเว้นเสร็จคุณสามารถเปิด Antivirus ให้กลับมาทำงานเหมือนเดิมได้แล้ว

ติดตั้งสคริป KC_L_S_API และตั้งค่า

Note โปรดตรวจสอบชื่อฐานข้อมูลหลักว่าตรงกันกับที่คุณใช้งานอยู่หรือไม่ โดยส่วนมากจะเป็น essentialmode
Note โปรดตั้งค่าสคริปให้เรียบร้อยบนเซิร์ฟเวอร์เทส ก่อนที่จะนำไปใช้จริงบน Production!
  1. เข้าไปที่ C:\KC_Launcher_V13
  2. คัดลอกสคริป KC_L_S_API ไปที่ resources ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ
  3. เข้าไปในสคริป KC_L_S_API และเปิดไฟล์ KC_L_S_API HeldiSQL.sql
  4. เมื่อโปรแกรม HeldiSQL เปิดขึ้นมา ให้เลือก Session เดียวกันกับฐานข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์คุณที่ใช้อยู่ และกดปุ่ม Open
  5. ให้กดที่ Icon (หรือ F9) และรอสักครู่
  6. Double Click ที่ KC_L_S_API HeldiSQL.sql และกด No
  7. คลิ๊กที่ชื่อ Session และกดที่ Icon (หรือ F5)
  8. เมื่อ Refresh เสร็จ ให้สังเกตว่ามี Table ชื่อ kc_launcher_service เข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์คุณเรียบร้อยแล้ว ชึ่งประกอบด้วย Columns
    1. identifier
    2. launcher_status
    3. first_connect
    4. last_connect
    5. disconnect
    6. messages
  9. เข้าไปในสคริป KC_L_S_API และเปิดไฟล์ config.lua
  10. เข้าไปที่ API key generator
  11. หลังจากนั้น ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Click to copy
  12. นำข้อความที่คัดลอกมาใส่ลงใน Config.KeyAPI = "YOUKEY" ที่อยู่ในไฟล์ config.lua และกดบันทึกให้เรียบร้อย (หากคุณต้องการตั้งค่าเพิ่มเติม คุณสามารถทำได้เลย)
  13. กลับออกไปที่ Path หลักของสคริปเซิร์ฟเวอร์ที่มีไฟล์ server.cfg อยู่ และเปิดไฟล์ server.cfg ขึ้นมา
  14. เพิ่ม start KC_L_S_API ไว้ด้านล่างสุดของหมวดหมู่ start ที่อยู่ใน server.cfg ของคุณ จากนั้นให้กดบันทึกให้เรียบร้อย
  15. ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณ
  16. หากถูกต้องจะมีข้อความเหมือนกับรูป หรือคล้ายกัน

แต่หากไม่! โปรดตรวจสอบว่าชื่อสคริปถูกต้องหรือไม่ หรือทำการแตกไฟล์ใหม่และลองอีกครั้ง


ติดตั้งระบบ Backend API

Note ต้องการ Node.js สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่เลย Node.js
  1. เข้าไปที่ Path C:\KC_Launcher_V13\ และคัดลอก Folder backend_api ไปไว้ที่หน้าจอ Desktop ของเครื่อง Server VPS
  2. จากนั้นให้เปิด CMD ขึ้นมาและพิมพ์คำสั่ง cd Desktop\backend_api
  3. ต่อด้วยคำสั่ง npm install (หรือกดรันไฟล์ 0-Install Node Modules.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  4. ต่อด้วยคำสั่ง npm run strapi-keys -- --generate (หรือกดรันไฟล์ 1.generate keys env.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  5. ต่อด้วยคำสั่ง npm run develop (หรือกดรันไฟล์ 2-Start Server dev mode.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  6. จากนั้นให้เปิดลิ้งค์ http://localhost:1337/admin บนเบราว์เซอร์ ให้สมัคร Account Superadmin และเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
  7. ไปที่ Settings ➜ คลิ๊กที่ Interface (หัวข้อ CONFIG SYNC) และกดปุ่ม Import และให้คุณกดปุ่ม Yes,import ให้รอจนเสร็จ
  8. จากนั้นให้หยุด Server API โดย กดปุ่ม ctrl + c และพิมพ์ y (หรือปิดหน้าต่าง CMD)
  9. ต่อด้วยคำสั่ง npm run build:win (หรือกดรันไฟล์ 3-build production.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  10. ให้เปิด Control Panel และเข้าไปที่ Windows Defender Firewall และคลิ๊กที่ Advanced settings
  11. ให้เลือก Inbound Rules และคลิ๊กที่ New Rules
  12. เลือกที่ Port และกด Next
  13. กำหนด Port 1337 และกด Next
  14. จากนั้นเลือก Allow the connection และกด Next ➜ กด Next
  15. กำหนดชื่อเป็น 1337 และกด Finish
  16. จากนั้นต่อด้วยคำสั่ง npm run start:win (หรือกดรันไฟล์ 4-Start Server production mode.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  17. ให้เปิดลิ้งค์ http://IP_SERVER:1337/admin/content-manager/single-types/api::kc-launcher-v13.kc-launcher-v13 บนเบราว์เซอร์ PC ของคุณ

กำหนดการตั้งค่า Launcher

  1. Launcher Settings
    • ช่อง Launcher Label ให้กำหนดชื่อโปรแกรม Launcher ที่จะแสดงบนโปรแกรม
    • Sidebar Logo ให้กำหนดรูปภาพสำหรับแสดงบน Sidebar ของหน้าจอโปรแกรม
    • ไม่บังคับ Discord RPC คือ แสดงกิจกรรมขณะที่ใช้งานโปรแกรม Launcher บนหน้าโปรไฟล์ Discord (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า)
      1. เข้าไปที่เว็บ https://discord.com/developers/applications/ และ Login ให้เรียบร้อย
      2. คลิ๊กที่ปุ่ม New Application จะปรากฏ Popup CREATE AN APPLICATION ขึ้นมา
        • NAME คือ ชื่อ Discord Application
        • TEAM คือ กลุ่มนักพัฒนา (หรือผู้ใช้ Discord) ที่ต้องการทำงานร่วมกันและแชร์การเข้าถึงการกำหนดค่าของ Application
      3. เมื่อกรอก NAME และ TEAM เสร็จให้กดติ๊กถูกเพื่อยอมรับเงื่อนไขของ Discord จากนั้นคลิ๊กที่ปุ่ม Create
      4. ใน General Information หัวข้อ APP ICON ให้กำหนดรูปภาพสำหรับใช้เป็น Icon Discord Application จากนั้นกดที่ปุ่ม Save Changes
      5. คลิ๊กที่ OAuth2 และกดปุ่ม Copy ที่หัวข้อ Client information ➜ CLIENT ID จากนั้นนำข้อความที่คัดลอกมาใส่ลงในช่อง CLIENT ID
      6. คลิ๊กที่ Rich Presence
        • ใน Rich Presence Invite Image หัวข้อ COVER IMAGE ให้กำหนดรูปภาพเริ่มต้นสำหรับการเชิญเข้าร่วมแชท จากนั้นกดที่ปุ่ม Save Changes
        • ใน Rich Presence Assets Image ให้กดที่ปุ่ม Add Image(s) จากนั้นให้เลือกรูปภาพอย่างน้อย 1 รูป หรือ 2 รูปสำหรับใช้กับ Server เพื่อที่จะใช้แสดงในกิจกรรมขณะที่ใช้งานโปรแกรม Launcher บนหน้าโปรไฟล์ Discord
        จากนั้นให้คัดลอก KEY Name ของรูปมาใส่ลงในช่อง (L) IMAGE KEY
      7. ในช่อง (L) IMAGE TEXT ให้กำหนดข้อความสำหรับคำอธิบาย (ข้อความนี้จะแสดงเมื่อผู้ใช้ Discord นำเคอร์เซอร์เมาส์มาวางค้างที่รูป (L) IMAGE KEY)
  2. ตัวเลือก เพิ่ม Server FiveM
    1. คลิ๊กที่ Add a component to Server List และเลือก FiveM
    2. ช่อง Server Label ให้กำหนดชื่อ Server
    3. ช่อง ID Cfx.re Keymaster ให้เข้าไปที่ https://keymaster.fivem.net/ และ Login ให้เรียบร้อย
      1. ในหัวข้อ Active servers ให้คักลอก ID ของ Server คุณ และนำมาใส่ในช่อง ID Cfx.re Keymaster
    4. ช่อง IP:Post for Connect ให้กำหนด IP และ Port ของ Server FiveM
    5. ช่อง KC_L_S_API Settings
      1. ในช่อง URL KC_L_S_API ให้เปลี่ยน IP และ Port ในลิ้งค์ http://IP_SERVER:PORT/KC_L_S_API เป็น IP และ Port ของ Server FiveM คุณ
      2. ให้คัดลอก KEYAPI ใน Config.KeyAPI="KEYAPI" ที่อยู่ในไฟล์ config.lua ของสคริป KC_L_S_API จากขั้นตอน ติดตั้งสคริป KC_L_S_API และตั้งค่า หัวข้อที่ 12 มาใส่ในช่อง API Key KC_L_S_API
    6. ช่อง Steam Settings
      1. ให้เข้าไปที่ https://steamcommunity.com/dev/apikey/ และ Login ให้เรียบร้อย จากนั้นให้คัดลอก Steam Web API Key มาใส่ในช่อง Steam Web-API-Key
    7. ช่อง Server Logo ให้กำหนดรูปภาพสำหรับใช้เป็น Logo Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    8. ช่อง Server Background ให้กำหนดรูปภาพสำหรับใช้เป็น Background Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    9. ช่อง URL Background MP4 ไม่บังคับ / แทนที่ Server Background ให้กำหนดลิ้งค์ไฟล์ .mp4 สำหรับใช้เป็น Video Background Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    10. Discord RPC (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า) ไม่บังคับ / ต้องการ Discord RPC จาก Launcher Settings
      1. ให้คัดลอก KEY Name ของรูปที่ต้องการใช้กับ Server มาใส่ลงในช่อง (S) IMAGE KEY
      2. ในช่อง (S) IMAGE TEXT ให้กำหนดข้อความสำหรับคำอธิบาย (ข้อความนี้จะแสดงเมื่อผู้ใช้ Discord นำเคอร์เซอร์เมาส์มาวางค้างที่รูป (S) IMAGE KEY)
    11. News Settings (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า) ไม่บังคับ / ต้องการ Discord RPC จาก Launcher Settings
      1. เข้าไปที่เว็บ https://discord.com/developers/applications/ และ Login ให้เรียบร้อย
      2. คลิ๊กเข้าไปใน Discord Applications ของคุณที่สร้างไว้ และคลิ๊กที่ Installation
        1. หัวข้อ Authorization Methods ให้เลือกเป็น Guild Install
        2. หัวข้อ Install Link ให้เลือกเป็น Discord Provided Link
        3. หัวข้อ Default Install Settings ➜ Guild Install ➜ SCOPES ให้เลือกเป็น applications.commands และ bot
        4. หัวข้อ Default Install Settings ➜ Guild Install ➜ PERMISSIONS ให้เลือกเป็น Administrator
        5. คัดลอกและเปิดลิ้งค์ที่อยู่ในหัวข้อ Install Link บนเบราว์เซอร์และติดตั้ง Bot ใน Server Discord ของคุณ
      3. ในช่อง News Title ให้กำหนดข้อความสำหรับแสดงเป็นหัวข้อ 'ข่าวสาร'
      4. ในช่อง Discord Channel ID ให้กำหนด ID ของ Channel Discord ที่ต้องการใช้เป็นห้องสำหรับโพส 'ข่าวสาร'
      5. ให้เข้าไปที่เว็บ https://discord.com/developers/applications/ และ Login ให้เรียบร้อย
      6. คลิ๊กเข้าไปใน Discord Applications ของคุณที่สร้างไว้ และคลิ๊กที่ Bot
        1. ให้หาหัวข้อ TOKEN ที่อยู่ใน Build-A-Bot และคลิ๊กที่ปุ่ม Rreset Token และกดปุ่ม Yes, do it!
        2. จากนั้นให้คัดลอก TOKEN มาใส่ลงในช่อง Discord Bot-Token
    12. ไม่บังคับ Tags (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อเพิ่ม Tags)
      1. ในช่อง Tags Label ให้กำหนดข้อความของ Tags
      2. ในช่อง Tags Color ให้กำหนดสีพื้นหลังของข้อความ Tags
    13. Link (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อเพิ่ม Link)
      1. ในช่อง Link Label ให้กำหนดข้อความของ Link
      2. ในช่อง Font Color ให้กำหนดสีของข้อความ Link
      3. ในช่อง Url ให้กำหนดลิ้งค์ที่ต้องการให้เปิดบนเบราว์เซอร์
      4. ในช่อง Background Color ให้กำหนดสีพื้นหลังของข้อความ Link
      5. ในช่อง Icon ให้กำหนดรูปภาพสำหรับแสดงเป็นรูป Icon บนปุ่ม Link
    14. จากนั้นกดที่ปุ่ม Save และกดที่ปุ่ม Publish
  3. ตัวเลือก เพิ่ม Server SAMP
    1. คลิ๊กที่ Add a component to Server List และเลือก SAMP
    2. ช่อง Server Label ให้กำหนดชื่อ Server
    3. ช่อง Server IP ให้กำหนดเลข IP Server
    4. ช่อง Server Port ให้กำหนดเลข Port Server
    5. ไม่บังคับ ช่อง Server Password ให้กำหนดรหัสผ่านสำหรับ Server SAMP
    6. ช่อง Server Logo ให้กำหนดรูปภาพสำหรับใช้เป็น Logo Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    7. ช่อง Server Background ให้กำหนดรูปภาพสำหรับใช้เป็น Background Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    8. ช่อง URL Background MP4 ไม่บังคับ / แทนที่ Server Background ให้กำหนดลิ้งค์ไฟล์ .mp4 สำหรับใช้เป็น Video Background Server ที่จะใช้แสดงบนโปรแกรม
    9. SAMP Main Game (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า) ไม่บังคับ / BETA
      1. ในช่อง Link file for Download Game ให้กำหนดลิ้งค์ไฟล์ .zip (ไฟล์ .exe, .dll ต้องอยู่ที่ Path Root -ของ zip เท่านั้น!) สำหรับระบบอัพเดตไฟล์เกม
      2. ในช่อง Game Version ให้กำหนดเลขเวอร์ชั่นไฟล์เกม เช่น 1.0.0
    10. Discord RPC (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า) ไม่บังคับ / ต้องการ Discord RPC จาก Launcher Settings
      1. ให้คัดลอก KEY Name ของรูปที่ต้องการใช้กับ Server มาใส่ลงในช่อง (S) IMAGE KEY
      2. ในช่อง (S) IMAGE TEXT ให้กำหนดข้อความสำหรับคำอธิบาย (ข้อความนี้จะแสดงเมื่อผู้ใช้ Discord นำเคอร์เซอร์เมาส์มาวางค้างที่รูป (S) IMAGE KEY)
    11. News Settings (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อตั้งค่า) ไม่บังคับ / ต้องการ Discord RPC จาก Launcher Settings
      1. เข้าไปที่เว็บ https://discord.com/developers/applications/ และ Login ให้เรียบร้อย
      2. คลิ๊กเข้าไปใน Discord Applications ของคุณที่สร้างไว้ และคลิ๊กที่ Installation
        1. หัวข้อ Authorization Methods ให้เลือกเป็น Guild Install
        2. หัวข้อ Install Link ให้เลือกเป็น Discord Provided Link
        3. หัวข้อ Default Install Settings ➜ Guild Install ➜ SCOPES ให้เลือกเป็น applications.commands และ bot
        4. หัวข้อ Default Install Settings ➜ Guild Install ➜ PERMISSIONS ให้เลือกเป็น Administrator
        5. คัดลอกและเปิดลิ้งค์ที่อยู่ในหัวข้อ Install Link บนเบราว์เซอร์และติดตั้ง Bot ใน Server Discord ของคุณ
      3. ในช่อง News Title ให้กำหนดข้อความสำหรับแสดงเป็นหัวข้อ 'ข่าวสาร'
      4. ในช่อง Discord Channel ID ให้กำหนด ID ของ Channel Discord ที่ต้องการใช้เป็นห้องสำหรับโพส 'ข่าวสาร'
      5. ให้เข้าไปที่เว็บ https://discord.com/developers/applications/ และ Login ให้เรียบร้อย
      6. คลิ๊กเข้าไปใน Discord Applications ของคุณที่สร้างไว้ และคลิ๊กที่ Bot
        1. ให้หาหัวข้อ TOKEN ที่อยู่ใน Build-A-Bot และคลิ๊กที่ปุ่ม Rreset Token และกดปุ่ม Yes, do it!
        2. จากนั้นให้คัดลอก TOKEN มาใส่ลงในช่อง Discord Bot-Token
    12. ไม่บังคับ Tags (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อเพิ่ม Tags)
      1. ในช่อง Tags Label ให้กำหนดข้อความของ Tags
      2. ในช่อง Tags Color ให้กำหนดสีพื้นหลังของข้อความ Tags
    13. Link (คลิ๊กที่ไอค่อน + เพื่อเพิ่ม Link)
      1. ในช่อง Link Label ให้กำหนดข้อความของ Link
      2. ในช่อง Font Color ให้กำหนดสีของข้อความ Link
      3. ในช่อง Url ให้กำหนดลิ้งค์ที่ต้องการให้เปิดบนเบราว์เซอร์
      4. ในช่อง Background Color ให้กำหนดสีพื้นหลังของข้อความ Link
      5. ในช่อง Icon ให้กำหนดรูปภาพสำหรับแสดงเป็นรูป Icon บนปุ่ม Link
    14. จากนั้นกดที่ปุ่ม Save และกดที่ปุ่ม Publish

ตั้งค่าโปรเจค Launcher

  1. เข้าไปที่ Settings ➜ API Tokens และคลิ๊กที่ปุ่ม Create new API Token
    • Name ให้กำหนดชื่อ Token เช่น api-launcher
    • Token duration ให้กำหนดเป็น Unlimited
    • Token type ให้กำหนดเป็น Read-only
    จากนั้นกดที่ปุ่ม Save
  2. คัดลอก Token ของคุณเก็บไว้ หรือใส่ไว้ในช่อง Description จากนั้นกดที่ปุ่ม Save
  3. เข้าไปที่ C:\KC_Launcher_V13\application\ และเปลี่ยนรูป appicon.ico และ appicon.png ให้เป็นรูปที่ต้องการ (ชื่อไฟล์ต้องเป็น appicon เท่านั้น!)
  4. ให้เปิดไฟล์ main.js ขึ้นมา และแก้ไขเลข IP ในบรรทัดที่ 23 ให้ตรงกับ backend_api
  5. จากนั้นนำ Token API จาก backend_api มาใส่แทนที่ข้อความ 'API_Token' ในบรรทัดที่ 26 และกดบันทึกให้เรียบร้อย
  6. จากนั้นให้เปิดไฟล์ package.json ขึ้นมา และมองหา "build":{...}
    • appId ให้กำหนด ID ให้กับ Application
    • productName ให้กำหนดชื่อ Application
  7. มองหา "publish":{...}
    • url ให้เปลี่ยนเลข IP ให้ตรงกับ backend_api และกดบันทึกให้เรียบร้อย
  8. จากนั้นให้เปิด CMD ขึ้นมาและพิมพ์คำสั่ง cd C:\KC_Launcher_V13\application\
  9. ต่อด้วยคำสั่ง npm install (หรือกดรันไฟล์ 0-Install Node Modules.cmd ใน application) ให้รอจนเสร็จ
  10. ต่อด้วยคำสั่ง npm install --global yarn (หรือกดรันไฟล์ 1-install yarn.cmd ใน application) ให้รอจนเสร็จ
  11. คำสั่งสำหรับทดสอบ ต่อด้วยคำสั่ง yarn start (หรือกดรันไฟล์ 2-yarn start app dev mode.cmd ใน application) ให้รอจนเสร็จ (กดปุ่ม ctrl + c เพื่อหยุดการทำงาน)
  12. คำสั่งสำหรับ build ไฟล์ Setup ต่อด้วยคำสั่ง yarn build (หรือกดรันไฟล์ 3-yarn build app.cmd ใน application) ให้รอจนเสร็จ (ไฟล์จะถูกบันทึกใน C:\KC_Launcher_V13\application\dist\ )

ระบบอัพเดตอัตโนมัติ

  1. เปิดไฟล์ package.json ขึ้นมา และมองหา "version":"..." ให้กำหนดเวอร์ชั่น Application เช่น 1.0.0
  2. เข้าไปที่ Path C:\KC_Launcher_V13\application\dist\ และคัดลอกไฟล์ทั้งหมดที่ตรงกับลิสนี้
    • (productName).exe
    • (productName).exe.blockmap
    • latest.yml
  3. เข้าไปในเครื่อง Server VPS และเข้าไปในโฟลเดอร์ backend_api และวางไฟล์ที่คัดลอกมาลงในโฟลเดอร์ static_files
  4. ให้เปิด Control Panel และเข้าไปที่ Windows Defender Firewall และคลิ๊กที่ Advanced settings
  5. ให้เลือก Inbound Rules และคลิ๊กที่ New Rules
  6. เลือกที่ Port และกด Next
  7. กำหนด Port 3030 และกด Next
  8. จากนั้นเลือก Allow the connection และกด Next ➜ กด Next
  9. กำหนดชื่อเป็น 3030 และกด Finish
  10. จากนั้นให้เปิด CMD ขึ้นมาและพิมพ์คำสั่ง cd cd Desktop\backend_api
  11. ต่อด้วยคำสั่ง npm install --global http-server (หรือกดรันไฟล์ 5-Install http-server.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ
  12. ต่อด้วยคำสั่ง npx http-server ./static_files -p 3030 (หรือกดรันไฟล์ 6-start server static files.cmd ใน backend_api) ให้รอจนเสร็จ

วิธีเปิดใช้งานระบบ ตรวจสอบสถานะ Launcher

ระบบ ตรวจสอบสถานะ Launcher คือระบบที่จะคอยตรวจสอบสถานะ Launcher ของผู้เล่นว่าทำงานอยู่หรือไม่ และเป็นระบบที่จะบังคับให้ผู้เล่นต้องเข้าเซิร์ฟเวอร์ผ่านโปรแกรม Launcher เท่านั้น หากผู้เล่นไดที่ไม่ใช้โปรแกรม Launcher ในการเข้าเซิร์ฟเวอร์ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถเข้าเล่นได้

วิธีเปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckStatusLauncher และปรับให้เป็น true จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์

วิธีปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckStatusLauncher และปรับให้เป็น false จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์