เกี่ยวกับ Launcher

• ชื่อโปรแกรม: KC Launcher V11
• ภาษาที่ใช้เขียน: C#, HTML, CSS และ JavaScript
• IDE: Visual Studio 2022
• .NET Framework เวอร์ชั่น: 4.8, 4.7.2, 4.5
• CSS Framework: Bootstrap 5

ความต้องการของระบบ

• Windows: Windows 10 หรือ Windows 11 64 บิต (Windows 8.1 อาจใช้งานได้)
• CPU: Intel Core 2 Q6600 @ 2.40GHz / AMD Phenom 9850 @ 2.5GHz
• GPU: NVIDIA 9800 GT 1GB / AMD HD 4870 1GB / Intel HD GT2
• RAM: 8GB (4GB อาจใช้งานได้)
• Framework: .NET Framework 4.8, 4.7.2, 4.5
• หน้าจอแสดงผล: 1600*900

ดาวน์โหลด

ก่อนที่เราจะเริ่ม คุณจำเป็นต้องมีโปรแกรมเหล่านี้สะก่อน

1. Visual Studio 2022 Community เราจะใช้โปรแกรมนี้เพื่อแก้ไขโค้ด และสร้างไฟล์ .EXE คุณสามารถดาวน์โหลดได้ที่ปุ่มนี้ได้เลย
   ดาวน์โหลด Visual Studio 2022 Community
2. XAMPP เราจะใช้โปรแกรมนี้เพื่อใช้งาน Apache เพื่อเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์บนโพรโทคอล HTTP คุณสามารถดาวน์โหลดได้ที่ปุ่มนี้ได้เลย
   ดาวน์โหลด XAMPP
3. HeidiSQL เราจะใช้โปรแกรมนี้เพื่อดูและแก้ไขข้อมูล MySQL คุณสามารถดาวน์โหลดได้ที่ปุ่มนี้ได้เลย
   ดาวน์โหลด HeidiSQL
4. Inno Setup เราจะใช้โปรแกรมนี้เพื่อสร้างไฟล์ .EXE สำหรับติดตั้งบนเครื่องอื่น คุณสามารถดาวน์โหลดได้ที่ปุ่มนี้ได้เลย
   ดาวน์โหลด Inno Setup ดาวน์โหลด Inno Setup (ดาวน์โหลดโดยตรง)
5. Visual Studio Code เราจะใช้โปรแกรมนี้เพื่อแก้ไขโค้ด UI Launcher
   ดาวน์โหลด Visual Studio Code

การติดตั้ง Visual Studio 2022 Community

สำหรับการติดตั้งโปรแกรม Visual Studio 2022 Community สามารถดูสามารถดูวิธีติดตั้งได้ ที่นี่เลย

การติดตั้ง XAMPP

สำหรับการติดตั้งโปรแกรม XAMPP สามารถดูสามารถดูวิธีติดตั้งได้ ที่นี่เลย

การติดตั้ง HeidiSQL

สำหรับการติดตั้งโปรแกรม HeidiSQL สามารถดูสามารถดูวิธีติดตั้งได้ ที่นี่เลย

การติดตั้ง Inno Setup

ทำการติดตั้งโปรแกรม Inno Setup บนเครื่อง PC ของคุณให้เรียบร้อย แต่เราจะยังไม่ใช้โปรแกรมนี้ตอนนี้

การติดตั้ง Visual Studio Code

ทำการติดตั้งโปรแกรม Visual Studio Code บนเครื่อง PC ของคุณให้เรียบร้อย แต่เราจะยังไม่ใช้โปรแกรมนี้ตอนนี้ และตอนนี้คุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้น ไปเริ่มกันเลย!

ที่อยู่ไฟล์โปรเจค

ให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์และแตกไฟล์ "KC Launcher V11.2.zip" ด้วยโปรแกรม Winrar ไปที่ไดร์ C คุณควรจะได้ที่อยู่ของไฟล์แบบนี้ C:\KC Launcher V11\

ติดตั้งสคริป KC_L_S_API และตั้งค่า

เข้าไปที่ C:\KC Launcher V11\ ➜ ทำการแตกไฟล์ KC_L_S_API V2.0.0.zip ➜ คัดลอกสคริป KC_L_S_API ไปที่ resources ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜ ทำการเพิ่ม start KC_L_S_API ไว้ด้านล่างสุดของหมวดหมู่ start ที่อยู่ใน server.cfg ของคุณ ➜ หลังติดตั้งเสร็จให้เข้าไปในสคริป KC_L_S_API ➜ เปิดไฟล์ config.lua ด้วย Code Editor ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่อง VPS ของคุณ ➜ กลับมาที่ PC ของคุณ และเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\Project Tools\Free Key Generator\ และเปิดไฟล์ Free Key Generator.exe ➜ หลังจากเปิดโปรแกรม Free Key Generator ขึ้นมา ให้ปรับ Key length เป็น 50 และคลิ๊ก Generate และคลิ๊ก Copy to clipboard ➜ กลับมาที่เครื่อง VPS ของคุณนำข้อความที่คัดลอกมาใส่ลงใน Config.KeyAPI ที่อยู่ในไฟล์ config.lua ➜ หากคุณต้องการตั้งค่าเพิ่มเติมคุณสามารถทำได้เลย ➜ หลังจากตั้งค่าเสร็จให้กดบันทึกและเปิดไฟล์ KC_L_S_API HeldiSQL.sql ➜ โปรแกรม HeldiSQL จะเด้งขึ้นมา ให้กดปุ่ม Open ➜ หลังจากนั้นให้กดปุ่ม F9 เพื่อรัน SQL ➜ จากนั้นให้กดปุ่ม F5 เพื่อรีเฟรซ และตรวจสอบว่ามี Table kc_launcher_service หรือไม่ หากยังไม่มีให้ตรวจสอบว่าชื่อฐานข้อมูลหลักตรงกันหรือไม่และลองใหม่อีกครั้ง ➜ ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณเพื่อเช็คว่าสคริปทำงานหรือไม่ หากสคริปทำงานจะมีข้อความขึ้นว่า

แต่หากไม่! โปรดตรวจสอบว่าชื่อสคริปถูกต้องหรือไม่ หรือทำการแตกไฟล์ใหม่และลองอีกครั้ง

ติดตั้ง KC Launcher V11 Settings

เข้าไปที่ C:\KC Launcher V11\KC Launcher Settings\Setup และติดตั้ง KC Launcher Settings V11 Setup.exe บนเครื่อง PC ของคุณ

เลือกบริการ Hosting สำหรับ UI Launcher

ทำการเลือกบริการ Hosting ระหว่าง Firebase Hosting และ Infinityfree หรือบนเครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache

1. Firebase Hosting เป็นบริการของ Firebase ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีและเสียเงิน โดยจะมีข้อจำกัดเช่น Download 10Gb/เดือน และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 10Gb เว็บไซต์ ข้อมูลเพิ่มเติม ราคา
2. Infinityfree เป็นบริการที่สามารถใช้เป็นโฮสติ้งสําหรับเว็บไซต์ได้ฟรีและเสียเงิน โดยจะมีข้อจำกัดเช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 5Gb และแบนด์วิดท์ไม่จํากัด เว็บไซต์และข้อมูลเพิ่มเติม ราคา
3. เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับใช้เป็น Hosting UI Launcher โดยจะใช้ Service Apache ที่ติดมากับ XAMPP เพื่อเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์บนโพรโทคอล HTTP ที่ฟรีและควบคุมได้ง่าย รวมถึงการแก้ไขไฟล์ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องอัปโหลดไฟล์ไปที่อื่น

เลือกอย่างไดอย่างหนึ่ง

• วิธีใช้ Hosting บน Firebase Hosting (ยาก)
• วิธีใช้ Hosting บน Infinityfree (ง่าย)
• วิธีใช้ Hosting บน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (แนะนำ, ง่ายมาก, แก้ไขไฟล์ได้สะดวก)

วิธีใช้ Hosting บน Firebase Hosting

ให้เข้าไปที่ Firebase Console และทำการ Login ให้เรียบร้อยและคลิ๊กที่ Create a project ➜ คลิ๊กที่ Continue ➜
หากมี Google Analytics for you Firebase project ให้ติ๊กออกและคลิ๊กที่ Create project หากมีข้อความขึ้นว่า 'Your new project is ready' ให้คลิ๊กที่ Continue ➜ คลิ๊กที่ Build และเลือก Hosting ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Get started ➜ ให้เข้าไปที่ Node.js และทำการดาวน์โหลด Node.js LTS และทำการติดตั้งตามปกติ ➜
เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\ ➜ คลิ๊กขวาเลือก New Folder และตั้งชื่อว่า WebUILauncher ➜ เข้าไปในโฟลเดอร์ WebUILauncher และคัดลอก Path เก็บไว้ ➜
เปิด Start Menu ของ Windows และค้นหา Command Prompt หรือใช้ชื่อ cmd และคลิ๊ก Run as administrator ➜
พิมพ์ cd และวาง Path ที่คัดลอกมา คุณจะได้ข้อความแบบนี้ cd C:\KC Launcher V11\WebUILauncher ➜ กดปุ่ม Enter ที่ Keyboard และใน Command Prompt ของคุณควรจะขึ้นข้อความแบบนี้ C:\KC Launcher V11\WebUILauncher>

กลับมาที่หน้าเว็บ Firebase Console และคัดลอก npm install -g firebase-tools ไปวางใน Command Prompt และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard รอจนกว่าการดาวน์โหลดเสร็จ ➜ กลับมาที่หน้าเว็บ Firebase Console และคลิ๊กที่ปุ่ม Next ให้คัดลอก firebase login ไปวางใน Command Prompt และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard
หากมีคำถามว่า Allow Firebase to collect CLI usage and error reporting information? (Y/n) ให้คุณเลือกตอบว่า Y = Yes หรือ N = No และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard จากนั้นโปรแกรมจะส่งคุณไปที่หน้า Login Firebase CLI ให้คุณเลือก Email เดียวกันกับที่คุณใช้ Login Firebase Console ➜ กลับมาที่หน้าเว็บ Firebase Console ให้คัดลอก firebase init ไปวางใน Command Prompt และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard
หากมีคำถามว่า Are you ready to proceed? (Y/n) ให้ตอบ Y และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
กดปุ่มลูกศรชี้ลง ⇩ ที่ Keyboard มาที่ Hosting: Configure files for Firebase Hosting and (optionally) set up GitHub Action deploys และกดปุ่ม Spacebar ที่ Keyboard ➜ กดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜ เลือก Use an existing project และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜ เลือกโปรเจคที่สร้างไว้และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
หากมีคำถามว่า What do you want to use as your public directory? (public) ให้กดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
หากมีคำถามว่า Configure as a single-page app (rewrite all urls to /index.html)? (y/N) ให้ตอบ Y และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
หากมีคำถามว่า Set up automatic builds and deploys with GitHub? (y/N) ให้ตอบ N และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜ เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\ ➜
คัดลอกโฟลเดอร์ UI KC Launcher V11 ไปวางที่ Path C:\KC Launcher V11\WebUILauncher\public\ ➜ กลับมาที่หน้าเว็บ Firebase Console และคลิ๊กที่ปุ่ม Next ให้คัดลอก firebase deploy และคลิ๊กที่ปุ่ม Continue to console ➜ นำข้อความที่คัดลอกมาไปวางใน Command Prompt และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard รอให้โปรแกรมอัปโหลดเสร็จสิ้น.. ➜
ให้คัดลอก Hosting URL: https://NAMEPROJECT.web.app ไปเปิดบนเบราว์เซอร์ของคุณ ในแถบลิ้งค์ให้เพิ่ม https://NAMEPROJECT.web.app/UI KC Launcher V11/ และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜ คุณจะเห็น UI Launcher ➜ ปิด Command Prompt ของคุณและเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\WebUILauncher\ ➜ คลิ๊กขวาเลือก New Text Document และตั้งชื่อว่า Deploy.bat ➜ คลิ๊กขวาทีไฟล์ Deploy.bat เลือก Edit ให้ข้อความ firebase deploy จากนั้นกดบันทึกและออกจาก Notepad เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

วิธีใช้ Hosting บน Infinityfree

ให้เข้าไปที่ Infinityfree และทำการสมัครชื่อผู้ใช้ให้เรียบร้อย และหลังจากที่ยืนยัน Email เรียบร้อยแล้ว ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Create Account ➜
หัวข้อ Subdomain ให้ตั้งชื่อ Domain ที่ต้องการ ➜ จากนั้นกดปุ่ม Search Domain ➜
หัวข้อ Account Password ให้ตั้งรหัสผ่านของคุณ จากนั้นคลิ๊กที่ปุ่ม Create Account ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Open Control Panel ➜ หากมีการขออนุญาตให้คลิ๊กที่ปุ่ม I Approve ➜
รอสักครู่... คุณจะถูกส่งมาที่ VistaPanel ให้คลิ๊กที่ Online File Manager ➜ หากมีหน้าต่าง Login เด้งขึ้นมาให้กลับไปที่หน้าเว็บ Infinityfree ➜ คลิ๊กที่ Account คุณจะเจอ Account ที่คุณสร้างเมื่อสักครู่ ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Manager ➜ มองหา FTP Hostname และคัดลอก Hostname ➜ กลับมาที่หน้าเว็บ File Manager ➜ ในช่อง Host ให้ใส่ Hostname ที่คัดลอกมาลงในช่อง ➜
กลับมาที่หน้าเว็บ Infinityfree และมองหา FTP Password และคัดลอก Password ➜ กลับมาที่หน้าเว็บ File Manager ➜ ในช่อง Password ให้ใส่ Password ที่คัดลอกมาลงในช่อง และกดปุ่ม Connect
คุณจะเจอกับ 1 โฟลเดอร์และ 3 ไฟล์

• htdocs
• .htaccess
• .override
• DO NOT UPLOAD FILES HERE

• files for your website should be uploaded here!
• index2.html

วิธีใช้ Hosting บน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache

เข้าไปในเครื่อง VPS ของคุณ ➜ เข้าไปที่ Path C:\xampp\htdocs\ และให้สร้างโฟลเดอร์ชื่อ my-launcher ➜ จากนั้นให้เข้าไปในโฟลเดอร์ my-launcher ➜
กลับมาที่ PC ของคุณ และเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\ ➜ ให้คัดลอกโฟลเดอร์ UI KC Launcher V11 ➜ กลับมาที่เครื่อง VPS ของคุณ ➜
วางโฟลเดอร์ UI KC Launcher V11 ที่คัดลอกมา ลงในโฟลเดอร์ my-launcher ➜ จากนั้นกลับมาที่ PC ของคุณ และเปิดเบราว์เซอร์ของคุณ ในแถบลิ้งค์ให้เพิ่ม เลข IP เครื่อง VPS ของคุณ และให้เพิ่ม /my-launcher/UI KC Launcher V11/ ตามท้ายเลข IP และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜ คุณจะเห็น UI Launcher เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ตั้งค่า Launcher

ทำการเปิดโปรแกรม KC Launcher Settings V11 ที่อยู่ใน Start Menu หรือที่หน้า Desktop ของคุณ ➜ ทำการตั้งค่า Launcher ของคุณให้เรียบร้อย ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม SAVE หนึ่งครั้งเพื่อบันทึกการตั้งค่าของคุณ และออกจากโปรแกรม

Restore NuGet Packages

เข้าไปที่ C:\KC Launcher V11\ และเปิดไฟล์ KC Launcher V11.sln หลังจากที่โปรเจคเปิดขึ้นมาให้ทำการ Restore NuGet Packages และทำการ Build (วิธี Build เขียนอยู่ในไฟล์ ServiceConfig.cs หรือทำตามวิดีโอตัวอย่าง) เมื่อทำการ Build เสร็จ คุณสามารถกดที่ปุ่ม Start เพื่อเช็คว่าโปรแกรมค่าเริ่มต้นทำงานได้หรือไม่ ➜ หลังจากกดปุ่ม Start จะมีแจ้งเตือนขึ้นมา ➜ ให้กด Yes เพื่อรัน Launcher และ Service พร้อมกัน
(หากกด No Launcher จะทำงานเพียงอย่างเดียวเหมาะสำหรับเวลาแก้ไข UI)

ตั้งค่าโปรเจค

หลังจากที่โปรเจคเปิดขึ้นมาคุณจะเจอกับไฟล์ ServiceConfig.cs, _SETTINGS.cs, ConfigRuntime.cs, SettingApp.cs ที่ปักหมุดไว้
จากนั้นให้เข้าไปเปิดโปรแกรม Free Key Generator.exe ที่อยู่ใน C:\KC Launcher V11\Project Tools\Free Key Generator
หลังจากเปิดโปรแกรม Free Key Generator ขึ้นมา ให้ปรับ Key length เป็น 50 และคลิ๊ก Generate และคลิ๊ก Copy to clipboard

ตั้งค่ารหัสสำหรับเข้ารหัสหรือถอดรหัสไฟล์ข้อมูลจาก Fujino.KCLauncher.Service.Client
นำข้อความที่คัดลอกมาใส่ลงใน PasswordEncryptionDataFile = "วางที่นี่"; ที่อยู่ในไฟล์ ServiceConfig.cs
และใน Password_Encryption = "วางที่นี่"; ที่อยู่ในไฟล์ _SETTINGS.cs
และใน PasswordEncryptionDataFile = "วางที่นี่"; ที่อยู่ในไฟล์ ConfigRuntime.cs จากนั้นให้กดบันทึก และเปิดไฟล์ _SETTINGS.cs

ตั้งค่ารหัสสำหรับเข้ารหัสหรือถอดรหัส APP ID ของ ServiceKCLauncherRuntime
กลับไปที่โปรแกรม Free Key Generator.exe ใหม่อีกครั้ง และคลิ๊ก Generate และคลิ๊ก Copy to clipboard จากนั้นนำข้อความที่คัดลอกมาใส่ลงใน PasswordEncryptionAppID = "วางที่นี่"; ที่อยู่ในไฟล์ _SETTINGS.cs
และใน PasswordEncryptionAppID = "วางที่นี่"; ที่อยู่ในไฟล์ ConfigRuntime.cs

หากคุณต้องการตั้งค่าเพิ่มเติม คุณสามารถทำได้เลย

เลือกบริการจัดเก็บข้อมูลและตั้งค่า

ทำการเลือกบริการจัดเก็บข้อมูลระหว่าง RealTime Database และ n:point และบนเว็บไซต์ของคุณ หรือบนเครื่อง VPS ของคุณ

1. จัดเก็บบน RealTime Database เป็นบริการของ Firebase ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีและเสียเงิน โดยจะถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลเช่น Download 10Gb/เดือน(360Md ต่อวัน) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 1Gb เว็บไซต์ ข้อมูลเพิ่มเติม ราคา
2. จัดเก็บบน n:point เป็นบริการที่สามารถเก็บขอมูล Json ได้ฟรี โดยจะถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ 100 คําขอ/นาที ต่อ IP Address หรือ 600 คําขอ/นาที ต่อ JSON bin เว็บไซต์และข้อมูลเพิ่มเติม
3. จัดเก็บบน เว็บไซต์ของคุณ (หรือที่จัดเก็บไฟล์ที่สามารถดึงเป็นประเภท RAW ได้ เช่น Github) เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณมีเว็บไซต์ของตัวเองและ Bandwidth ที่เพียงพอ และถ้าคุณต้องการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูลการตั้งค่าของคุณ วิธีนี้คือคำตอบ
4. จัดเก็บบน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache เป็นทางเลือกสุดท้าย สำหรับการจัดเก็บข้อมูลและตั้งค่า โดยจะใช้ Service Apache ที่ติดมากับ XAMPP เพื่อเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์บนโพรโทคอล HTTP ที่ฟรีและควบคุมได้ และถ้าคุณต้องการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูลการตั้งค่าของคุณ วิธีนี้คือคำตอบ แต่อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บข้อมูลและตั้งค่าด้วยวิธีนี้อาจไม่มั่นคงนัก เนื่องจากวิธีนี้เหมาะสำหรับเครื่อง VPS ส่วนตัวที่ไม่มีการเปลี่ยน IP ภายหลัง หากคุณต้องมีการเปลี่ยนเครื่อง VPS ในภายหลัง โปรดอย่าใช้งานวิธีนี้!

เลือกอย่างไดอย่างหนึ่ง

• วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน RealTime Database (ไม่แนะนำ หากคุณใช่เวอร์ชั่นฟรี Bandwidth อาจไม่เพียงพอ, ยากช่วงแรก, สะดวกภายหลัง)
• วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน n:point (แนะนำ, ง่าย)
• วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน เว็บไซต์ของคุณ (แนะนำ, ง่าย)
• วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache ( ไม่แนะนำ หากคุณต้องมีการเปลี่ยนเครื่อง VPS ในภายหลัง, ง่าย, ไม่มั่นคง)

วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน RealTime Database

ให้เข้าไปที่ Firebase Console และทำการ Login ให้เรียบร้อยและคลิ๊กที่ Create a project ➜ คลิ๊กที่ Continue ➜
หากมี Google Analytics for you Firebase project ให้ติ๊กออกและคลิ๊กที่ Create project ➜ หากมีข้อความขึ้นว่า 'Your new project is ready' ให้คลิ๊กที่ Continue ➜ คลิ๊กที่ Build และเลือก Realtime Database ➜
คลิ๊กที่ Create Database และเลือก Database location เป็น Singapore และคลิ๊กที่ Next และคลิ๊กที่ Enable ➜ คลิ๊กที่ไอค่อน ➜ คลิ๊กที่ Import JSON ➜ คลิ๊กที่ Browse ➜ ไปที่ Path C:\KC Launcher V11\ และเลือกไฟล์ KC Data Realtime Database for import.json ➜ คลิ๊ก Import ➜ คุณจะได้ Data แบบนี้
KC Launcher AutoUpdate
└───_status: true
KC Launcher Service API
└───_status: true
KC Launcher Settings
└───_status: true
คัดลอกลิ้งค์ https://NAMEPROJECT-default-rtdb.asia-southeast1.firebasedatabase.app/ ของคุณ ➜ เปิดโปรแกรม KC Launcher Settings V11 ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม SAVE ➜
วางลิ้งค์ที่คัดลอกมาลงในช่อง 'ลิ้งค์ Realtime Database' ➜ คลิ๊กที่ไอค่อนฟันเฟืองและเลือก Project settings ➜ คลิ๊กที่ Service accounts และเลือก Database Secrets ➜
คลิ๊ก Show Secret และคัดลอก Database Secret ➜ กลับมาที่โปรแกรม KC Launcher Settings V11 ➜ วางคีย์ที่คัดลอกมาลงในช่อง 'คีย์ Database Secrets' ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม 'Login and Deploy'

ไปที่สคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜ เปิดไฟล์ KCLauncher.Service.AppReader.exe ➜ ว่างลิ้งค์ Realtime Database ลงในช่อง 'ลิ้งค์ Realtime Database' ➜
และวางคีย์ Database Secrets ลงในช่อง 'คีย์ Database Secrets' ➜ เปิดไฟล์ server.cfg ของเซิร์ฟเวอร์คุณและตรวจสอบ Port ที่อยู่ใน server.cfg ว่าตรงกับ 'ลิ้งค์เซิร์ฟเวอร์ API' หรือไม่?
หากไม่ตรงโปรดเปลี่ยน Port ที่อยู่ใน 'ลิ้งค์เซิร์ฟเวอร์ API' ให้ตรงกันกับใน server.cfg ➜ ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜ กลับมาที่โปรแกรม KCLauncher.Service.AppReader.exe ➜
คลิ๊กที่ปุ่ม RUN เพื่อให้โปรแกรม KCLauncher.Service.AppReader.Console.exe ทำการส่งข้อมูลไปที่ RealTime Database ➜ กลับมาที่ Firebase Console จะมีการเพิ่ม Data kc_playercount, kc_playermax และ kc_serverstatus

กลับมาที่โปรเจค KC Launcher V11 ไฟล์ ServiceConfig.cs ➜ UseRealTimeDatabase ให้ปรับเป็น true ➜ Database_BasePath ให้ใส่ลิ้งค์ Realtime Database ลงใน "ที่นี่" ➜ Database_AuthSecret ให้ใส่คีย์ Database Secrets ลงใน "ที่นี่" ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน n:point

ให้เข้าไปที่ n:point.io และทำการ Login ให้เรียบร้อย ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม +New ➜ เปิดโปรแกรม KC Launcher Settings V11 ➜ ให้คัดลอกลิ้งค์นี้ http://IPSERVER:PORTSERVER/KC_L_S_API/ ใส่ลงในช่องลิ้งค์เซิร์ฟเวอร์ API ➜ ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜ หลังจากรันเซิร์ฟเวอร์แล้วให้คลิ๊กที่ปุ่ม Test บนโปรแกรม KC Launcher Settings V11 หากคุณมองเห็นข้อความ {"kc_playercount":0,"_connected":1,"kc_playermax":1024} หรือข้อความที่คล้ายกัน นั้นหมายถึงลิ้งค์สามารถใช้งานได้ ➜
คลิ๊กที่ปุ่ม SAVE ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Export to Json file ➜ จะมีแจ้งเตือนขึ้นมา ให้กด OK ➜ โปรแกรมจะพาคุณไปที่โฟลเดอร์ Data Export ➜
เปิดไฟล์ Data KC Packages for n.point.txt ด้วยโปรแกรม Notepad++ และคัดลอกข้อความที่อยู่ข้างในทั้งหมด (Ctrl + A) ➜

กลับมาที่ n:point.io และวางข้อความที่คัดลอกมาทับแทนที่ข้อความเดิม (Ctrl + A และ Ctrl + V) ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Save ➜ คลิ๊กที่ไอค่อน✎เพื่อเปลี่ยนชื่อที่จัดเก็บ และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
คัดลอกลิ้งค์ตรงข้อความ 'This bin is available at https://api.npoint.io/????' ➜ กลับมาที่โปรเจค KC Launcher V11 ไฟล์ ServiceConfig.cs ➜
UseRealTimeDatabase ให้ปรับเป็น false ➜ KCPackagesURL ให้ใส่ลิ้งค์ที่คัดลอกมาลงใน "ที่นี่" ➜ KCPackagesUsePassword ให้ปรับเป็น false ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน เว็บไซต์ของคุณ

เปิดโปรแกรม KC Launcher Settings V11 ➜ ให้คัดลอกลิ้งค์นี้ http://IPSERVER:PORTSERVER/KC_L_S_API/ ใส่ลงในช่องลิ้งค์เซิร์ฟเวอร์ API ➜ ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
หลังจากรันเซิร์ฟเวอร์แล้วให้คลิ๊กที่ปุ่ม Test บนโปรแกรม KC Launcher Settings V11 หากคุณมองเห็นข้อความ {"kc_playercount":0,"_connected":1,"kc_playermax":1024} หรือข้อความที่คล้ายกัน นั้นหมายถึงลิ้งค์สามารถใช้งานได้ ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม SAVE ➜ ในช่อง รหัสผ่านสำหรับเข้ารหัสไฟล์ kc_packages.json คุณสามารใส่รหัสสำหรับเข้ารหัสไฟล์ kc_packages.json ได้ ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม Export to Json file ➜ จะมีแจ้งเตือนขึ้นมา ให้กด OK ➜ โปรแกรมจะพาคุณไปที่โฟลเดอร์ Data Export ➜ คัดลอกไฟล์ kc_packages.json และอัปโหลดไปที่เว็บไซต์ของคุณ ➜ คัดลอกที่อยู่ไฟล์ kc_packages.json ที่อยู่บนเว็บไซต์ของคุณ

กลับมาที่โปรเจค KC Launcher V11 ไฟล์ ServiceConfig.cs ➜ UseRealTimeDatabase ให้ปรับเป็น false ➜ KCPackagesURL ให้ใส่ลิ้งค์ที่คัดลอกมาลงใน "ที่นี่"

หากคุณเข้ารหัสไว้
KCPackagesUsePassword ให้ปรับเป็น true
KCPackagesPassword ให้ใส่รหัส "ที่นี่" ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

หากคุณไม่ได้เข้ารหัสไว้
KCPackagesUsePassword ให้ปรับเป็น false ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

วิธีตั้งค่าสำหรับการจัดเก็บบน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache

เข้าไปในเครื่อง VPS ของคุณ ➜ เข้าไปที่ Path C:\xampp\htdocs\ และให้สร้างโฟลเดอร์ชื่อ my-launcher ➜ จากนั้นให้เข้าไปในโฟลเดอร์ my-launcher ➜
กลับมาที่ PC ของคุณ และเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\KC Launcher Settings\bin\Release\ ➜ ให้คัดลอกไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์ Release ➜
กลับมาที่เครื่อง VPS ของคุณ ➜ วางไฟล์ที่คัดลอกมา ลงในโฟลเดอร์ my-launcher ➜ หลังจากวางไฟล์เสร็จให้เปิดโปรแกรม KC Launcher Settings.exe ➜

ให้คัดลอกลิ้งค์นี้ http://IPSERVER:PORTSERVER/KC_L_S_API/ ใส่ลงในช่องลิ้งค์เซิร์ฟเวอร์ API ➜ ทำการรันเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
หลังจากรันเซิร์ฟเวอร์แล้วให้คลิ๊กที่ปุ่ม Test บนโปรแกรม KC Launcher Settings V11 หากคุณมองเห็นข้อความ {"kc_playercount":0,"_connected":1,"kc_playermax":1024} หรือข้อความที่คล้ายกัน นั้นหมายถึงลิ้งค์สามารถใช้งานได้ ➜ คลิ๊กที่ปุ่ม SAVE ➜ ในช่อง รหัสผ่านสำหรับเข้ารหัสไฟล์ kc_packages.json คุณสามารใส่รหัสสำหรับเข้ารหัสไฟล์ kc_packages.json ได้ ➜
คลิ๊กที่ปุ่ม Export to Json file ➜ จะมีแจ้งเตือนขึ้นมา ให้กด X ➜ ออกจากโปรแกรม KC Launcher Settings V11 ➜ จากนั้นกลับมาที่ PC ของคุณ และเปิดเบราว์เซอร์ของคุณ ในแถบลิ้งค์ให้เพิ่ม เลข IP เครื่อง VPS ของคุณ และให้เพิ่ม /my-launcher/Data Export/kc_packages.json/ ตามท้ายเลข IP และกดปุ่ม Enter ที่ Keyboard ➜
คุณจะเห็นข้อมูลการตั้งค่าทั้งหมดของคุณ (หากคุณเข้ารหัสไฟล์ kc_packages.json ไว้ คุณจะเห็นเป็นข้อความที่ไม่สามารถอ่านให้เข้าใจได้) ➜
ให้คัดลอกลิ้งค์ http://123.456.7.89/my-launcher/Data%20Export/kc_packages.json/

กลับมาที่โปรเจค KC Launcher V11 ไฟล์ ServiceConfig.cs ➜ UseRealTimeDatabase ให้ปรับเป็น false ➜ KCPackagesURL ให้ใส่ลิ้งค์ที่คัดลอกมาลงใน "ที่นี่"

หากคุณเข้ารหัสไว้
KCPackagesUsePassword ให้ปรับเป็น true
KCPackagesPassword ให้ใส่รหัส "ที่นี่" ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

หากคุณไม่ได้เข้ารหัสไว้
KCPackagesUsePassword ให้ปรับเป็น false ➜ ทำการ Build และทดสอบโปรแกรม

เปลี่ยนรูปหน้าโหลด KC Start Launcher

โปรดเตรียมไฟล์รูปสำหรับใช้เป็นหน้าโหลดโปรแกรม ขนาด 560x280 และตั้งชื่อไฟล์เป็น app bg.jpg เท่านั้น!
จากนั้นเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\FileBuild\resource\ ➜ นำไฟล์รูปที่ต้องการเปลี่ยนมาว่างทับไฟล์เดิม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

เปลี่ยนรูป Logo/Icon KC Start Launcher

โปรดเตรียมไฟล์รูปสำหรับ Logo/Icon KC Start Launcher มขนาด 200x200 ประเภท ICO หากคุณมีแค่ไฟล์ประเภท PNG คุณสามารถแปลงไฟล์ PNG เป็น ICO ได้ ที่นี่เลย

เข้าไปที่ KC Start Launcher ➜ คลิ๊กขวาที่ KC Start Launcher ➜ เลือก Add ➜ เลือก Existing Item... ➜ เปลี่ยนจาก Visual C# Files เป็น All Files ➜
เลือกไฟล์ Logo ของคุณที่เป็นประเภท ICO ➜ คลิ๊ก Add จากนั้นคลิ๊กขวาที่ KC Start Launcher ➜ เลือก Properties ➜ เลือกหัวข้อ Application ➜
หัวข้อ Icon คลิ๊กที่ลูกศรชี้ลง ⇩ ➜ เลือกไฟล์ Logo ของคุณ และทำการ Build เป็นอันเสร็จสิ้น

เปลี่ยนรูปหน้าโหลด UI Launcher

โปรดเตรียมไฟล์รูปสำหรับใช้เป็นหน้าโหลด UI Launcher ขนาด 1280x690 และตั้งชื่อไฟล์เป็น apploading. PNG, JPG หรือ GIF (เลือกอย่างไดอย่างหนึ่ง)
จากนั้นเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\FileBuild\launcher\appresources\ ➜ นำไฟล์รูปที่ต้องการเปลี่ยนมาว่างทับไฟล์เดิม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

เปลี่ยนรูป Logo/Icon Launcher

โปรดเตรียมไฟล์รูปสำหรับ Logo/Icon Launcher ขนาด 200x200 และตั้งชื่อไฟล์เป็น appicon.ico หากคุณมีแค่ไฟล์ประเภท PNG คุณสามารถแปลงไฟล์ PNG เป็น ICO ได้ ที่นี่เลย
จากนั้นเข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\FileBuild\launcher\appresources\ ➜ นำไฟล์ Logo/Icon ที่ต้องการเปลี่ยนมาว่างทับไฟล์เดิม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

แก้ไขเนื้อหา UI Launcher

เข้าไปที่โปรแกรม Visual Studio Code ➜ คลิ๊กที่ File ➜ Open Folder... ➜ เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\UI KC Launcher V11\ ➜ คลิ๊กที่ index.html ➜ แก้ไขตามที่คุณต้องการ จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Firebase Hosting (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Infinityfree (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)

เปลี่ยนรูปพื้นหลัง UI Launcher

เข้าไปที่โปรแกรม Visual Studio Code ➜ คลิ๊กที่ File ➜ Open Folder... ➜ เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\UI KC Launcher V11\ ➜ คลิ๊กที่ assets ➜ คลิ๊กที่ css ➜ คลิ๊กที่ styles.css ➜ ในบรรทัดที่ 3 คุณสามารถกำหนดที่อยู่ไฟล์ภาพได้ 2 แบบ
แบบที่ 1 กำหนดที่อยู่ภาพแบบ External (ลิ้งค์):
นำลิ้งค์ภาพที่ต้องการไปใส่แทนที่ ../img/bg.png จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
แบบที่ 2 กำหนดที่อยู่ภาพแบบ Internal (Path):
เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\UI KC Launcher V11\assets\img\ นำภาพที่ต้องการใส่ลงใน Path ดังกล่าว และนำชื่อไฟล์ภาพของคุณไปใส่แทนที่ ../img/bg.png (เช่น ../img/new_bg.jpg) จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Firebase Hosting (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Infinityfree (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)

เปลี่ยนวีดีโอ 'ประกาศและกิจกรรม' UI Launcher

เข้าไปที่โปรแกรม Visual Studio Code ➜ คลิ๊กที่ File ➜ Open Folder... ➜ เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\UI KC Launcher V11\ ➜ คลิ๊กที่ index.html ➜
สำหรับวีดีโอที่ 1 จะแก้ไขที่บรรทัดที่ ~44 (ใน src="URL")
สำหรับวีดีโอที่ 2 จะแก้ไขที่บรรทัดที่ ~47 (ใน src="URL")
สำหรับวีดีโอที่ 3 จะแก้ไขที่บรรทัดที่ ~50 (ใน src="URL")

วิธีแก้ไข
คัดลอก ข้อความท้ายลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=hvoD7ehZPcM ของวีดีโอที่ต้องการ มาใส่แทนตำแหน่งเดียวกันกับของตัวอย่างลิ้งค์ด้านล่าง ซึ่งจะเหมือนกันกับลิ้งค์ที่อยู่ใน UI Launcher ➜ จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ตัวอย่างลิ้งค์
https://www.youtube-nocookie.com/embed/ hvoD7ehZPcM?autoplay=1&mute=1&loop=1&playlist=hvoD7ehZPcM&controls=0

• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Firebase Hosting (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Infinityfree (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)

วิธีใช้กับ UI Launcher ที่กำหนดเอง

หากต้องการใช้งานกับ UI Launcher ของคุณที่กำหนดเอง คุณจำเป็นต้องติดตั้งส่วนเสริมที่สำคัญ และเพิ่มโค้ดเพิ่มเติมดังนี้

ติดตั้งส่วนเสริม
1. SweetAlert2 เป็นส่วนเสริมที่จำเป็นสำหรับแสดงการแจ้งเตือนของตัวโปรแกรม Launcher คุณสามารถอ่านวิธีติดตั้งได้ ที่นี่เลย

โค้ดเพิ่มเติม
ให้คัดลอกโค้ดด้านล่างนี้ ไปเพิ่มในไฟล์ .js (JavaScript) และไฟล์ .html ของคุณ เพื่อให้ UI Launcher ของคุณสามารถทำงานร่วมกับตัวโปรแกรม Launcher ได้

ด้านบนสุดของไฟล์ .js
function callCefSharp() {
    CefSharp.BindObjectAsync("JSHandler");
}

ด้านล่างสุดของไฟล์ .js
function notification(_time, _icon, _message) {
    const Toast = Swal.mixin({
        toast: true,
        position: 'top-end',
        showConfirmButton: false,
        timer: _time,
        timerProgressBar: true,
        didOpen: (toast) => {
            toast.addEventListener('mouseenter', Swal.stopTimer)
            toast.addEventListener('mouseleave', Swal.resumeTimer)
        }
    })

    Toast.fire({
        icon: _icon,
        title: _message
    })
}

callCefSharp();

รวมลิสต์อีเวนต์ต่างๆของ HTML ที่มีอยู่แล้ว (สำหรับ Button)

• สำหรับ ปุ่มเริ่มเกม id="btn_joinserver" type="button" onclick="JSHandler.jsCallLauncherName(this.id)"
• สำหรับ ปุ่มคัดลอก SteamID 64 id="btn_copy_steamid64" type="button" onclick="JSHandler.jsCallLauncherName(this.id)"
• สำหรับ ปุ่มคัดลอก SteamID HEX id="btn_copy_steamidhex" type="button" onclick="JSHandler.jsCallLauncherName(this.id)"
• สำหรับ ปุ่มคัดลอก ลิั้งค์โปรไฟล์ id="btn_copy_steamprofileurl" type="button" onclick="JSHandler.jsCallLauncherName(this.id)"
• สำหรับต้องการให้เปิดลิ้งค์ต่างๆ onclick="JSHandler.jsCallLauncherOpen('ลิ้งค์ที่ต้องการเปิด')"

รวมลิสต์อีเวนต์ต่างๆของ HTML ที่มีอยู่แล้ว (สำหรับแสดง)

• สำหรับแสดง จำนวนผู้เล่นและสถานะ (Paragraphs เท่านั้น!) <p id="prg_players" style="background: rgba(0, 183, 74, 0.8)">prg_players</p>
• สำหรับแสดง รูปโปรไฟล์ Steam (Image เท่านั้น!) <img id="img_steamavatar" src="ลิ้งค์รูปชัวคราว">
• สำหรับแสดง ชื่อโปรไฟล์ Steam (Paragraphs เท่านั้น!) <p id="prg_steam_nameprofile">prg_steam_nameprofile</p>
• สำหรับแสดง ชื่อโปรไฟล์ Steam (Label เท่านั้น!) <label id="lbl_steam_nameprofile">lbl_steam_nameprofile</label>
• สำหรับแสดง ชื่อผู้ใช้ Steam (Label เท่านั้น!) <label id="lbl_steam_username">lbl_steam_username</label>
• สำหรับแสดง SteamID 64 (Label เท่านั้น!) <label id="lbl_steamid64">lbl_steamid64</label>
• สำหรับแสดง SteamID HEX (Label เท่านั้น!) <label id="lbl_steamidhex">lbl_steamidhex</label>
• สำหรับแสดง ลิั้งค์โปรไฟล์ Steam (Label เท่านั้น!) <label id="lbl_steamprofileurl">lbl_steamprofileurl</label>

วิธีนำไปใช้งาน
เข้าไปที่ ไฟล์ .HTML หลักของคุณ ➜ สำหรับปุ่ม Button ให้คัดลอกโค้ดที่อยู่ใน รวมลิสต์อีเวนต์ต่างๆของ HTML ที่มีอยู่แล้ว (สำหรับ Button) จากด้านบน ➜ เลือกคัดลอกอีเวนต์ปุ่มที่คุณต้องการมาใส่ใน Button ของคุณ ที่จะใช้เป็นปุ่มสำหรับอีเวนต์นั้นๆ ➜ จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ของคุณไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

หากต้องการ แสดงจำนวนผู้เล่น, ชื่อโปรไฟล์ Steamหรืออื่นๆ ให้คัดลอกโค้ดที่อยู่ใน รวมลิสต์อีเวนต์ต่างๆของ HTML ที่มีอยู่แล้ว (สำหรับแสดง) จากด้านบน ➜ เลือกคัดลอกอีเวนต์แสดงที่คุณต้องการมาใส่ตรงตำแหน่งที่คุณต้องการ ➜ จากนั้นกดบันทึกและอัปโหลด UI Launcher ของคุณไปที่ Hosting เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Firebase Hosting (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ Infinityfree (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัปโหลดไฟล์สำหรับ เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (วิธีอัปโหลดไฟล์ขึ้นไปบน Hosting จะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)

ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น

เข้าไปที่ Path C:\KC Launcher V11\FileBuild\ ➜ คลิ๊กที่ Type ➜ ทำการลบไฟล์เหล่านี้

1. Microsoft.Threading.Tasks.Extensions.Desktop.xml
2. Microsoft.Threading.Tasks.Extensions.xml
3. Microsoft.Threading.Tasks.xml
4. Newtonsoft.Json.xml
5. RestSharp.xml
6. System.Net.Http.Extensions.xml
7. System.Net.Http.Primitives.xml
8. kc_service_client.pdb
9. KCStartLauncher.pdb

1. CefSharp.Core.Runtime.xml
2. CCefSharp.Core.xml
3. CefSharp.WinForms.xml
4. CefSharp.xml
5. Newtonsoft.Json.xml
6. RestSharp.xml
7. CefSharp.Core.Runtime.xml
8. _launcher.pdb
9. CefSharp.BrowserSubprocess.Core.pdb
10. CefSharp.BrowserSubprocess.pdb
11. CefSharp.Core.pdb
12. CefSharp.Core.Runtime.pdb
13. CefSharp.pdb
14. CefSharp.WinForms.pdb
15. ServiceKCLauncherRuntime.pdb

ป้องกันไฟล์ของคุณด้วย ConfuserEx

เข้าไปที่ C:\KC Launcher V11\Project Tools\ ➜ ติดตั้งโปรแกรม ConfuserEx Select Setup.exe ➜ จากนั้นให้เปิดโปรแกรม ConfuserEx Select ที่อยู่ใน Start Menu หรือที่หน้า Desktop ของคุณ ➜ คลิ๊กที่ ConfuserEx 1.0 ➜ คลิ๊ก Open project ➜ ไปที่ Path C:\KC Launcher V11\ ➜ เลือกไฟล์ 1 - KC Launcher V11 - ConfuserEx.crproj ➜
คลิ๊ก OK ➜ คลิ๊ก Protect! ➜ คลิ๊ก Protect! ➜ รอให้ขึ้น Finished ➜ คลิ๊ก Open project และทำอีกครั้งกับไฟล์ 2 - KC Launcher V11 - ConfuserEx.crproj

เริ่มต้นสร้างโปรเจค Inno Setup

เปิดโปรแกรม Inno Setup Compiler ที่ติดตั้งไปเมื่อก่อนหน้านี้ ถัดจากขั้นตอนนี้ไปโปรดอย่าพลาดขั้นตอนไดไป โดยที่ขั้นตอนจะเรียงตามหัวข้อของโปรแกรมหากคุณพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย

Welcome และ Welcome to the Inno Setup Script Wizard
เลือก Create a nnew script file using the Script Wizard ➜ คลิ๊ก OK ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲
Application Information

• หัวข้อย่อย Application name ใส่ชื่อโปรแกรมของคุณ (ตัวอย่าง KC Launcher V11)
• หัวข้อย่อย Application version ใส่เลขเวอร์ชั่นให้ตรงกับไฟล์ launcher.exe(ตัวอย่าง 11.0.0)
• หัวข้อย่อย Application publisher ใส่ชื่อบริษัทหรือชื่อผู้พัฒนา (ตัวอย่าง Fujino N's)
• หัวข้อย่อย Application website ใส่ลิ้งค์เว็บไซต์ (ตัวอย่าง https://discord.com/invite/3fa6gc9)

• หัวข้อย่อย Application destination base folder เลือกเป็น Program Files folder ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

• หัวข้อย่อย Application main executable file เลือก Browse...➜ เข้าไปที่ C:\KC Launcher V11\FileBuild\ ➜ เลือกไฟล์ KCStartLauncher.exe ➜ คลิ๊ก Open
• หัวข้อย่อย Other application file เลือก Add folder... ➜ เข้าไปที่ This PC ➜ เลือกไดร์ C ➜ เลือก KC Launcher V11 ➜ เลือก FileBuild ➜ คลิ๊ก OK ➜ คลิ๊ก Yes ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

คลิ๊ก Next ➜ คลิ๊ก Next ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

• หัวข้อย่อย Install mode เลือก Non Administrative install mode (install for current user only) ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

• หัวข้อย่อย Launguages เลือก ภาษา English หรือภาษาที่ต้องการ ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

• หัวข้อย่อย Custom compiler output folder เลือก Browse... ➜ เข้าไปที่ This PC ➜ เลือกไดร์ C ➜ เลือก KC Launcher V11 ➜ เลือกโฟลเดอร์ Setup ➜ คลิ๊ก OK
• หัวข้อย่อย Custom compiler ตั้งชื่อไฟล์สำหรับติดตั้ง(ตัวอย่าง KC Launcher V11 Setup)
• หัวข้อย่อย Custom Setup Icon file เลือกรูปไอคอนประเภท ICO ของคุณ ➜ คลิ๊ก Next เพื่อไปที่หัวข้อ ↲

วิธีอัพเดตไฟล์ Launcher

นี่คือรายชื่อไฟล์ที่สามารถอัพเดตได้ผ่านการอัพเดตอัตโนมัติ

• ไฟล์ที่อยู่ใน C:\KC Launcher V11\FileBuild\launcher\ ไฟล์ .EXE และ .DLL ในนี้ทั้งหมด
• ไฟล์ที่อยู่ใน C:\KC Launcher V11\FileBuild\launcher\appresources\ ไฟล์ในนี้ทั้งหมด
• ไฟล์ที่อยู่ใน C:\KC Launcher V11\FileBuild\resource\ ไฟล์ในนี้ทั้งหมด
• ไฟล์ที่อยู่ใน C:\KC Launcher V11\FileBuild\ kc_service_client.exe และ Fujino.KCLauncher.Service.dll

• ดูวิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลสำหรับบริการจัดเก็บบน RealTime Database (วิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลจะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลสำหรับบริการจัดเก็บบน n:point (วิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลจะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลสำหรับบริการจัดเก็บบน เว็บไซต์ของคุณ (วิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลจะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)
• ดูวิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลสำหรับบริการจัดเก็บบน เครื่อง VPS ด้วย XAMPP Apache (วิธีอัพเดตหรืออัปโหลดข้อมูลจะอยู่เกือบสุดท้ายของหัวข้อ)

วิธีเปิดใช้งานระบบ ตรวจสอบสถานะ Launcher

ระบบ ตรวจสอบสถานะ Launcher คือระบบที่จะคอยตรวจสอบสถานะ Launcher ของผู้เล่นว่าทำงานอยู่หรือไม่ และเป็นระบบที่จะบังคับให้ผู้เล่นต้องเข้าเซิร์ฟเวอร์ผ่านโปรแกรม Launcher เท่านั้น หากผู้เล่นไดที่ไม่ใช้โปรแกรม Launcher ในการเข้าเซิร์ฟเวอร์ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถเข้าเล่นได้

วิธีเปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckStatusLauncher และปรับให้เป็น true
และมองหา Config.UseSetLauncherStatusAPI และปรับให้เป็น true จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์

วิธีปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckStatusLauncher และปรับให้เป็น false
และมองหา Config.UseSetLauncherStatusAPI และปรับให้เป็น false จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์

วิธีเปิดใช้งานระบบ Citizen Blacklist

ระบบ Citizen Blacklist คือระบบที่จะตรวจสอบไฟล์หรือโฟลเดอร์ใน FiveM ของผู้เล่น หากผู้เล่นมีไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ตรงกันกับที่ Admin เพิ่มไว้ในลิสต์ checkcitizen_blacklist.txt ผู้เล่นจะไม่สามารถเข้าเซิร์ฟเวอร์ได้

วิธีเปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckCitizenBlacklist และปรับให้เป็น true จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์

วิธีปิดใช้งาน
ให้เข้าไปเปิดไฟล์ config.lua ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ➜
ให้มองหา Config.UseCheckCitizenBlacklist และปรับให้เป็น false จากนั้นให้กดบันทึกและรันเซิร์ฟเวอร์

วิธีเพิ่มรายชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ใน Data Citizen Blacklist
คุณสามารถเพิ่มไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ Blacklist ได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
*หากต้องการเพิ่มโฟลเดอร์*
ให้นำตำแหน่งโฟลเดอร์ที่ต้องการ Blacklist ใส่ไปในไฟล์ checkcitizen_blacklist.txt โดยไฟล์ดังกล่าวจะอยู่ในโฟลเดอร์ data ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ โดยสามารถเพิ่มได้ตั้งแต่ FiveM.app ลงไปทั้งหมด อย่างเช่น หากต้องการ Blacklist โฟลเดอร์ action ซึ่งปกติตำแหน่งของโฟลเดอร์ action ที่อยู่ใน FiveM จะอยู่ใน Path C:\NAME\FiveM\FiveM.app\citizen\common\action ให้ทำการคัดลอกตั้งแต่ citizen\common\action ลงไป และนำไปใส่ในไฟล์ checkcitizen_blacklist.txt และเพิ่ม \ หลังชื่อโฟลเดอร์ เราจะได้ข้อความแบบนี้ citizen\common\action\ และหากต้องการเพิ่มโฟลเดอร์อีก 1 หรือ 2 หรือ 3 ให้ทำการกดปุ่ม Enter ให้ขึ้นบรรทัดใหม่ และเพิ่มโฟลเดอร์ที่ต้องต้องการเพิ่มได้เลย
*หากต้องการเพิ่มไฟล์*
ให้นำตำแหน่งของไฟล์ที่ต้องการ Blacklist ใส่ไปในไฟล์ checkcitizen_blacklist.txt โดยไฟล์ดังกล่าวจะอยู่ในโฟลเดอร์ data ที่อยู่ในสคริป KC_L_S_API ที่ติดตั้งอยู่ในสคริปเซิร์ฟเวอร์ของคุณ โดยสามารถเพิ่มได้ตั้งแต่ FiveM.app ลงไปทั้งหมด อย่างเช่น หากต้องการ Blacklist ไฟล์ interrelations.meta ซึ่งปกติตำแหน่งของไฟล์ interrelations.meta ที่อยู่ใน FiveM จะอยู่ใน Path C:\NAME\FiveM\FiveM.app\citizen\common\action\interrelations.meta ให้ทำการคัดลอกตั้งแต่ \citizen\common\action ลงไป และนำไปใส่ในไฟล์ checkcitizen_blacklist.txt และเพิ่ม \interrelations.meta หลัง \citizen\common\action เราจะได้ข้อความแบบนี้ citizen\common\action\interrelations.meta และหากต้องการเพิ่มไฟล์อีก 1 หรือ 2 หรือ 3 ให้ทำการกดปุ่ม Enter ให้ขึ้นบรรทัดใหม่ และเพิ่มไฟล์ที่ต้องการเพิ่มได้เลย

ตัวอย่าง

ตัวอย่าง Blacklist ไฟล์ เวลาใช้งานจริง

ตัวอย่าง Blacklist โฟลเดอร์ เวลาใช้งานจริง